1)ใจกลางดวงอาทิตย์
เป็นบริเวณที่มีความหนาแน่นมากที่สุดเป็นแหล่งเกิดพลังงานSun
มีขนาดราว
10% ของเส้นผ่าศูนย์กลางของดวงอาทิตย์
2) โฟโตสเฟียร์ (Photosphere) หรือทรงกลมแสง (Light
sphere) ให้แสงทุกสีเป็นพื้นผิวดวงอาทิตย์ที่มองเห็นได้
ซึ่งลึกลงไปจากชั้นนี้เป็นภายใน กรานูลของ (Granule) เป็นตัวพาพลังงานจากภายในมายังโฟโตสเฟียร์ปรากฏมีลักษณะคล้ายดอกดวงที่ผิวชั้นนี้
จุดดวงอาทิตย์ (Sunspot) เป็นจุดมืดอยู่ในชั้นนี้
มีอุณหภูมิต่ำสุด 4,500 – 5,500
องศาเซลเซียส
อุณหภูมิโฟโตสเฟียร์ 6,000
องศาเซลเซียส ใกล้ ๆ
จุดดวงอาทิตย์จะมีแฟคคิวลี (Faculae) ซึ่งเป็นโครงสร้างสว่างกว่าพื้นผิวโดยทั่วไป
3) โครโมสเฟียร์
(Chromosphere) หรือทรงกลมสี
( Colour sphere) มี แสงเป็นสีแดง เป็นชั้นบรรยากาศ ความหนาแน่นต่ำ
โครงสร้างทั่วไปในชั้นนี้เรียกว่า มอตเติล
(Mottle) ซึ่งถ้าปรากฏที่ขอบดวง จะเห็นเป็นยอดแหลม ๆ เล็ก ๆ
ที่พุ่งขึ้นลงมากมาย เรียกว่าสปิคูล (Spicule) ชั้นโครโมสเฟียร์มีอุณหภูมิราว 15,000
องศาเซลเซียส ในชั้นนี้มีพวยกาซ (Prominence) ที่เป็นโครงสร้างใหญ่รูปร่างต่าง
ๆ แฟลร์
(Flare) หรือการลุกจ้าคายอนุภาคประจุจำนวนมากออกจากดวงอาทิตย์ ซึ่งบางครั้งมีผลต่อบรรยากาศของโลก
แฟลร์อยู่ในบริเวณของจุดดวงอาทิตย์และพลาจซึ่งเป็นบริเวณที่มีกัมมันตภาพสูงกว่าพื้นผิวอื่น
ๆ
4) โคโรนา (Corona) เป็นชั้นสูงสุด มีความหนาแน่นต่ำสุด ไม่มีขอบเขตแน่นอน
รูปร่างเปลี่ยนแปลงได้ตามค่าของสนามแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์ โคโรนามีอุณหภูมิสูงประมาณ 2,000,000
องศาเซลเซียส
ตามปรกติโครโมสเฟียร์และโคโรนามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ต้องสังเกตในขณะเกิดสุริยุปราคา เมื่อดวงจันทร์บังแสงจ้าจากโฟโตเฟียร์
หรือมองได้จากเครื่องมือพิเศษที่ใช้สังเกตการณ์โครโมสเฟียร์ หรือโคโรนาโดยเฉพาะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น